เมื่อความรักไม่มีข้อจำกัด
จินตนาการใหม่ของหนัง LGBTQIA+ ยุค #สมรสเท่าเทียม

 จากจอภาพยนตร์สู่โลกแห่งความจริง ยุคสมรสเท่าเทียม จากภาพยนตร์ LGBTQIA+ ที่เราคุ้นเคย กำลังจะถูกเขียนบทใหม่

เมื่อประเทศไทยก้าวสู่ยุคแห่งความเท่าเทียมทางเพศ คู่รักทุกคู่จะมีสิทธิ์สมรสอย่างถูกต้องมาร่วมกันจินตนาการถึงเรื่องราวความรักในภาพยนตร์เหล่านี้ ถ้าหากตัวละครได้มาอยู่ในยุคที่มีกฎหมายรองรับ ความสุข ความฝัน การใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน จะงดงามเพียงใด

โดยกฎหมายสมรสเท่าเทียมจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2568 เป็นต้นไป แสนสิริขอร่วมยินดีกับก้าวสำคัญของประเทศไทยสู่การยอมรับความรักทุกรูปแบบ เพราะเราเชื่อว่า ความรักคือพื้นฐานของครอบครัวที่อบอุ่นและสังคมที่เข้มแข็ง มาร่วมสร้างเรื่องราวใหม่แห่งความรักในยุคนี้ ด้วยการสนับสนุนความเท่าเทียมและการเปิดกว้าง สร้างโลกที่เราเห็นในภาพยนตร์ให้เป็นจริงกัน

รักแห่งสยาม: เมื่อโต้งและมิวได้เติบโตในสังคมที่เข้าใจ

Live Equally, สมรสเท่าเทียม, Love Wins Sansiri

หากกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ในยุคของโต้งและมิว เรื่องราวความรักของพวกเขาคงแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง โดยไม่ต้องปกปิดความรู้สึก แต่ยังสามารถใช้ชีวิตคู่อย่างเปิดเผยและได้รับการยอมรับทางกฎหมาย การจดทะเบียนสมรสจะเป็นความฝันที่เป็นจริงได้ ไม่ใช่เพียงแค่จินตนาการ พวกเขาอาจได้รับสิทธิในการรับบุตรบุญธรรมร่วมกัน สร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ และไม่ต้องแยกจากกันในตอนจบ

ภาพของโต้งและมิวที่ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขและถูกต้องตามกฎหมายจะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้วัยรุ่น LGBTQIA+ มีความหวัง กล้าเป็นตัวเอง และได้รับการปกป้องเช่นเดียวกับคู่รักต่างเพศ

วิมานหนาม: ความรักข้ามพรมแดนที่ไม่ต้องซ่อนเร้น

Live Equally, สมรสเท่าเทียม, Love Wins Sansiri

เมื่อเสกจากไป ทองคำไม่เพียงสูญเสียคนรัก แต่ยังต้องสูญเสียสวนทุเรียนที่ร่วมลงทุนลงแรงมาด้วยกัน เพราะกฎหมายไม่ยอมรับการสมรสของพวกเขา ทำให้ทรัพย์สินทั้งหมดตกเป็นของแม่เสก แต่หากมีกฎหมายสมรสเท่าเทียม ทองคำจะได้รับการคุ้มครองสิทธิในฐานะคู่สมรสตามกฎหมาย สามารถสืบทอดกิจการสวนทุเรียนที่เขาและเสกร่วมกันสร้างมา เขาจะได้รับสิทธิในการตัดสินใจเรื่องการรักษาพยาบาลของเสกในฐานะคู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น การลดหย่อนภาษี หรือสิทธิในการรับมรดก

ความรักของพวกเขาจะได้รับการยอมรับและคุ้มครองอย่างเท่าเทียม ไม่ใช่เพียงแค่ ”วิมานหนาม“ แต่เป็นวิมานความรักที่ได้รับการปกป้องและเคารพจากสังคมและกฎหมาย

Brokeback Mountain: รักอิสระบนทุ่งหญ้ากว้าง จากภูเขาที่ซ่อนความรัก

Live Equally, สมรสเท่าเทียม, Love Wins Sansiri

เมื่อรักไม่ถูกจำกัดด้วยกฎเกณฑ์ หากกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ในยุคสมัยของพวกเขา เรื่องราวของเอนนิสและแจ็คจะไม่ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจากการต้องซ่อนความรัก ความรักของพวกเขาจะไม่ถูกจำกัดด้วยแรงกดดันทางสังคมและความกลัว แต่จะได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างเปิดเผย สามารถจดทะเบียนสมรสได้อย่างถูกต้อง ได้รับสิทธิและการคุ้มครอง เช่นเดียวกับคู่สมรสต่างเพศ และมีสิทธิในการรักและสร้างครอบครัวในแบบที่เขาเลือก

ชีวิตของพวกเขาจะเต็มไปด้วยความสุข ความหวัง และความภาคภูมิใจ แทนการจบลงแบบโศกนาฏกรรม Brokeback Mountain จะกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่ยิ่งใหญ่และได้รับการยอมรับ มิใช่เพียงสถานที่ลับสำหรับความรักต้องห้าม

Call Me by Your Name: ความรักที่เบ่งบานในฤดูร้อนแห่งการยอมรับ

Live Equally, สมรสเท่าเทียม, Love Wins Sansiri

ในโลกที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม Elio และ Oliver ไม่เพียงแค่มีความทรงจำอันแสนหวานในฤดูร้อนเพียงครั้งเดียว แต่พวกเขาจะสามารถเลือกที่จะอยู่ด้วยกันอย่างเปิดเผยและถูกต้องตามกฎหมาย ความรักของพวกเขาจะได้รับการยอมรับและเติบโตอย่างสวยงาม โดยไม่ต้องกังวลกับสังคมรอบข้าง พวกเขาอาจได้จดทะเบียนสมรส และได้รับสิทธิทางกฎหมาย เช่นเดียวกับคู่สมรสต่างเพศ

Elio อาจไม่ต้องทนทุกข์กับความเจ็บปวดจากการพลัดพราก และ Oliver ก็ไม่ต้องปิดบังตัวตนที่แท้จริงของเขา ชีวิตของพวกเขาจะเป็นบทกวีแห่งความรักที่สมบูรณ์ ไม่ใช่เพียงแค่ท่วงทำนองที่ค้างคาในความทรงจำ

Carol รักเธอสุดหัวใจ: ในโลกที่ความรักระหว่างหญิงกับหญิงไม่ต้องถูกซ่อน

Live Equally, สมรสเท่าเทียม, Love Wins Sansiri

หากมีกฎหมายสมรสเท่าเทียม ชีวิตของ Carol และ Therese จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาจะสามารถใช้ชีวิตร่วมกันอย่างเปิดเผย โดยไม่ต้องกลัวการถูกตัดสินจากสังคม มีโอกาสสร้างครอบครัวที่มีความสุข พวกเธอสามารถจดทะเบียนสมรส รับบุตรบุญธรรมร่วมกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายอื่นๆ เช่น ให้ความยินยอมในการรักษาพยาบาลคู่สมรส และสิทธิในการรับมรดก โดยไม่ต้องเสียสละความรักเพื่อความปลอดภัย และการยอมรับทางสังคม

เรื่องราวของพวกเธอจะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับคู่รัก LGBTQIA+ ในยุคนั้น แทนการเป็นเพียงความรักที่ต้องซ่อนเร้น

ใจซ่อนรัก: จินตนาการถึงอนาคตที่ความรักไม่ต้องซ่อนเร้น

Live Equally, สมรสเท่าเทียม, Love Wins Sansiri

หากสังคมไทยมีกฎหมายสมรสเท่าเทียมตั้งแต่ต้น เรื่องราวของฟ้าลดาและเอิน พวกเธอจะไม่ต้องปิดบังความรัก ไม่ต้องต่อสู้กับการไม่ยอมรับของครอบครัว และไม่ต้องเผชิญกับการเลือกปฏิบัติในสังคม ฟ้าลดาอาจไม่ต้องลังเลระหว่างอาชีพแพทย์กับความรัก และไม่ต้องทนทุกข์ใจกับการถูกบังคับให้แต่งงานกับผู้ชาย

“ใจซ่อนรัก” ไม่เพียงนำเสนอเรื่องราวความรักระหว่างผู้หญิงสองคน แต่ยังสะท้อนภาพสังคมไทยที่กำลังเปลี่ยนแปลง จากจุดเริ่มต้นที่ความรักถูกปฏิเสธ สู่การยอมรับในตอนจบ ละครเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าทัศนคติของผู้คนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เมื่อได้เห็นความรักที่แท้จริงและความกล้าหาญของคู่รัก

ในอนาคตอันใกล้ เมื่อกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ในประเทศไทย เรื่องราวความรัก เช่นนี้จะไม่ใช่เพียงจินตนาการบนจอภาพยนตร์อีกต่อไป แต่จะเป็นความจริงที่สวยงามสำหรับคู่รักทุกคู่ในสังคมไทยค่ะ เช่นเดียวกับประโยคที่ว่า “You May Kiss The Pride”

CONTRIBUTOR

Related Articles

เมื่อรัก คือ รักบนความเท่าเทียม ชีส & รถเมล์

หากลองคิดดูจากผู้คนนับล้านคนจะมีสักกี่คนที่เกิดวัน เดือน ปี เดียวกัน แล้วได้โคจรมาเจอกัน มากกว่านั้นคือได้กลายเป็น “คู่รัก” กัน เช่นเดียวกับคู่ของ “ชีส” – ณัฐฐิยา สงวนศักดิ์ และ “รถเมล์” – ชัญญานุช มะลิมาตร ที่ร่วมกันถักทอเรื่องราวความรักต่างๆ ร่วมกันมาจนจะเข้าปีที่

เมื่อรัก…คือ การให้ความสำคัญ กับคนที่อยู่เคียงข้าง ลูกไม้ & มาย

แสนสิริ ขอชวนทุกคนมาร่วมกันนับถอยหลังสู่วันที่ประเทศไทยจะมี “สมรสเท่าเทียม” อย่างเป็นทางการ โดยคู่รักทุกคู่จะสามารถจดทะเบียนเป็น “คู่สมรส” และได้รับสิทธิตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมพร้อมกันในวันที่ 22 มกราคม 2568 ผ่านแคมเปญ Ready, Set, Marry! เริ่มจากคู่รักสายแฟชั่น ‘ลูกไม้’ อินทิรา หอมเทียนทอง และ ‘มาย’

ส่งต่อโอกาสทางการศึกษาผ่านโครงการ ZERO DROPOUT

Zero Dropout  เพราะ “การศึกษา” เปรียบเสมือนใบเบิกทางต่อยอดสู่อนาคต แต่กลับมีข้อจำกัดหลายประการ อาทิ รายได้ในครอบครัวไม่เพียงพอ สภาพแวดล้อมไม่เอื้อต่อการศึกษา เด็กบางคนต้องช่วยที่บ้านทำงานจนเรียนไม่ทัน หรือขาดเอกสารในการยืนยันตัวตน ทำให้ “เด็ก” หลายคนหลุดออกจากระบบการศึกษาและพลาดโอกาสในการทำตามความฝันและพัฒนาสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น    โครงการ “Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน” เป็นสิ่งที่แสนสิริมีความมุ่งมั่นตั้งใจริเริ่มขึ้นเพื่อสร้างความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำ